Monday, January 23, 2012

ตั้งค่า Aptana IDE สำหรับเขียน python

Aptana คืออะไร




    Aptana คือเครื่องมือที่ใช้ในการช่วยเขียน Code ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งภาษา Python, PHP , Ruby เป็นต้นและที่สำคัญคือมันฟรีครับเพราะเป็น Open source ซึ่งในการติดตั้งสามารถทำได้ 2 แบบคือ แบบติดตั้งตัวโปรแกรม และแบบ plug-in สำหรับ Eclipse แต่ในที่นี้ เราจะใช้แบบ install ลงไปเลยครับ
โดยสามารถ Download ได้จากเว็บนี้ครับ http://aptana.com/products/studio3/download
และก็เหมือนเดิมครับจะขอข้ามขั้นตอนการติดตั้งไปนะครับเพราะไม่มีไรมากครับ กด next ลูกเดียว
ขอข้ามไปยังขั้นตอนการตั้งค่า สำหรับเขียน python เลยนะครับ
การตั้งค่า aptana    
   โดยขั้นแรก ให้เราเปิดโปรแกรมขึ้นมาก่อนครับหลังจากนั้นเลือกเมนู windows-> preference ดังรูป


หลังจาก นั้นให้เลือก PyDev-> Interpreter-Python ดังรูป


จากนั้นเลือก auto config


ระบบจะตรวจหาว่ามี python ติดตั้งอยู่หรือไม่และจะแสดงขึ้นมาดังรูป (ในรูปอาจจะเห็นเยอะนะครับ เพราะผมติดตั้ง lib ไว้เยอะครับ สำหรับคนติดตั้งใหม่จะไม่เยอะขนาดนี้ครับ)


หลังจากนั้นกด OK ออกมา จนหมดก็เสร็จครับผม
เป็นการเสร็จขั้นตอนการตั้งค่า python เรียบร้อยแล้วครับ
ทีนี้เราจะมาทำการสร้าง Project ใหม่กันครับ

การสร้างโปรเจ็คสำหรับ Python

ขั้นแรกไปที่ File -> New -> PyDev Project ดังรูป



 หลังจากนั้นจะแสดงหน้าจอตั้งค่าของ Project ขึ้นมาครับ ให้เราทำการตั้งชื่อและหลังจากนั้นตรงส่วนของ Gamma Version นั้นให้ตั้งเป็น 3.0 ครับดังรูป


เสร็จแล้ว กด Finishครับ
ทีนี้เรามาทำการสร้างไฟล์ python กันครับ โดยคลิ๊กขวาที่ Project แล้วเลิก New-> Python Module
ดังรูป


หลังจากนั้นให้ใส่ชื่อ File ครับแล้วกด Finish ออกมาครับ



ทีนี้เราก็จะสามารถเขียน python ได้ล่ะครับทีนี้เรามาลองพิมพ์ Code กันเลยครับ
พิมพ์ตามรูปเลยครับ



จากนั้นกดปุ่ม Play ตามรูปเลยครับ

และเลือก Python Run ครับ


ถ้าสังเกตส่วนของ Console ด้านล่างจะแสดงข้อความขึ้นมาครับผม
เห็นไหมล่ะครับว่าไม่ยากเลย คราวหน้าเราจะมาดูการสร้างตัวแปรใน pythonกันครับ

Friday, January 20, 2012

Hello World กับ Python

       วันนี้เราจะมาลองคำสั่งง่ายใน python กันนะครับ อาจจะบอกว่าวันนี้ผมขี้เกี่ยจไปหน่อยก็ได้เพราะว่าคำสั่งมันสั้นมาจริงแบบว่าบรรทัดเดียวจบเลย -*- เพื่อไม่ใหเป็นการเสียเวลาครับมาเริ่มกันเลย
ขั้นแรกเราก็เปิด python console ขึ้นมาก่อนครับ

แล้วพิมพ์คำสั่งนี้ลงไป

print("Hello World !!! Python")

แค่นี้เองครับสั้นมากเลยใช่ไหมครับทีนี้หน้าก็กด Enter หน้าจอก็จะแสดงข้อความขึ้นมาครับ
นอกจากนี้แล้วเรายังใช้ python ในการคำนวนได้แบบง่ายๆเช่น


1+1

ลองดูครับว่าได้ผลตามตัวอย่างรึเปล่า

วันนี้ขอแค่นี้ก่อนนะครับ

Thursday, January 19, 2012

มาเริ่มเขียน Python กันเลย

เริ่มเขียน python
     ตอนนี้เราจะลงมือเขียน python กันล่ะครับ แล้วเราจะต้องเริ่มยังไงดีล่ะ ไม่ยากครับเริ่มโดย การติดตั้ง python กันก่อน โดยการเข้าไปยังเว็บของ python.org แล้วเลือก download หรือเข้าตาม link นี้ก็ได้
http://python.org/download/ พอเข้าไปแล้วจะเห็นว่า python มีอยู่2 version ด้วยกันแล้วเอาไงล่ะทีนี้จะโหลดอันไหนดีมีทั้ง 2.7.2 และ 3.2.2 งั้นขออธิบายก่อนล่ะกันะครับว่าทั้ง2 versionนี้มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันยังไง
      Python 2.7.2 เป็นเวอร์ชั่นเก่าครับ แต่ทาง python ยังคอยดูแลให้อยู่เช่นแก้ไข Bug ต่างๆ ถามว่าเป็น version เก่าแล้วทำไมถึงยังใช้อยู่ล่ะ เพราะว่า library นั้นยังมีหลายตัวที่ยังเป็น version 2.7 อยู่ครับ ซึ่งถือว่ายังมีเป็นจำนวนมากอยู่ที่เป็น version นี้อยู่ครับ
     Python 3.2.2 อันนี้เป็น version ล่าสุดครับที่ยังมีพัฒนาอยู่ครับ ซึ่ง syntax ของ python นี้ต่างจากใน version 2.7 ครับและอย่างที่เคยบอกไว้คือเนื่องจากเป็น version จึงมี library ที่ให้ใช้น้อยกว่าใน version เดิมซึ่งในอนาคตอาจจะมีออกมามากกว่านี้ครับ
    แล้วทีนี้จะลง version ไหนดีล่ะ? ตอนนี้แนะนำ 2.7.2 ครับเพราะ lib ที่ใช้งานนั้นส่วนใหญ่เป็นของ2.7 แต่ใน version นี้เราสามารถเขียน syntax ของ code เป็นแบบของ 3.2 ได้ครับนี่แหละข้อดีของมันล่ะทีนี้เราก็ทำการ download แล้วติดตั้งกันได้เลยครับ สำหรับใน windows ผมแนะนำเป็นแบบ 32bit นะครับเพราะ 64bit ยังมีปัญหาในการติดตั้ง lib บ้างตัวอยู่ครับ ส่วนวิธีการติดตั้งนั้นขอข้ามไปนะครับไม่มีไรมากกด next เอาก็พอครับ จะไปขั้นตอนการเซ็ต Path ของ python กันเลยครับ

ขั้นตอนการ Set Path
     เป็นขั้นตอนที่อำนวยความสะดวกในการใช้งานให้เราครับ สำหรับใครที่ติดตั้ง python แล้วไม่ได้ set path นั้นจะต้องเข้าไปยัง Folder ที่ติดตั้ง python เพื่อทำการรันทุกครั้งครับ แต่ถ้าเรา set path แล้วเราสามารถเรียน python จากที่ไหนก็ได้ที่นี้เรามาเริ่ม set path กันเลยครับ


ขั้นตอนที่1


ขั้นตอนที่2




ขั้นตอนที่3



ขั้นตอนที่4




ขั้นตอนที่5
    ให้ใส่ Folder ที่ได้ทำการติดตั้ง python อย่างของผมติดตั้งไว้ที่ C:\python27\




หลังจากนั้นกด OK

ขั้นตอนที่6


       เข้า Command แล้วพิมพ์ว่า python ถ้าขึ้น python console ดังรูปแปลว่า set path ได้ถูกต้องครับ
โดย python console ใช้สำหรับพิมพ์ code python ลงไปครับ เราสามารถออกจาก python console ได้โดยกดปุ่ม Ctrl Z ครับ






เห็นรึเปล่าครับว่าไม่ยากเลยครับ ส่วนคราวน่าเราจะมา Hello World กับ Python กันครับ


Wednesday, January 18, 2012

ทำไมต้อง Python ?

ทำไมต้อง Python ?
      ถามว่าทำไมถึงใช้ภาษา Python ล่ะทั้งที่ภาษาอื่นก็มีที่เขาใช้กันทั้ง C,C#.net,asp.net,php,java
และอีกมากมายทั้งหลายแหล่ มันก็มีหลายเหตุผลด้วยกันสำหรับตัวผมแล้ว เพราะว่าผมกำลังศึกษาภาษานี้อยู่แล้ว ก็ใช้ภาษานี้ในการทำงานวิจัยด้วยครับ ส่วนเหตุ ที่เลือกภาษานี้ในการใช้ทำงานวิจัยเพราะว่า Python เองมีข้อดีหลายข้อเช่น
1. Python เป็นภาษา script จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการ compile program ถ้าเขียนโปรแกรมเล็กๆอาจจะไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ แต่ถ้าโปรแกรมใหญ่ๆที่ต้องใช้เวลาในการ compile ก่อนล่ะรอกันนานเลยล่ะ
2. มี Library พร้อมให้ใช้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Library ด้านการคำนวน เช่น numpy,scipy หรือด้านที่ใช้งานเกี่ยวกับ Graphic เช่น pyOpenGL, Python Image Library, pyOpencv เป็นต้นและเนื่องจากเป็นภาษาที่เปิดกว้างจึงมี library เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานด้านต่างๆ
3. ฟรี!! เนื่องจาก python เป็น open source จึงไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธ์ในการนำไปใช้งาน ถึงจะบอกว่าโปรแกมบางตัวสำหรับใช้งานในภาษาอื่นมีให้โหลดเยอะแยะในเน็ต สำหรับผมแล้วถ้าไม่จำเป็นจริงผมก็จะพยามไม่โหลดของเถื่อน ซื้อได้ก็ซื้อครับ ส่วนอันไหนที่เป็น open source ที่เขามีให้ donate ได้ก็ donate ครับ ก็คนอาชีพเดียวกันน่ะครับเลยเข้าใจความรู้สึกน่ะครับ
ผมจะไม่ขออธิบายส่วนของประวัติความเป็นมา ของ python นะครับ คนที่สนใจสามารถเข้าไปดูได้ที่
http://www.python.org/  ซึ่งเป็นเว็บของ python โดยตรงครับผม

เหตุที่เขียน Blog นี้

     สาเหตุที่เขียน Blog นี้น่ะหรอ ก็ไม่มีไรมากหรอกครับ แค่ต้องการเตื่อยตัวเองเกี่ยวกับความรู้เรื่อของ Python กับ OpenGL ที่เขียนโดย python และก็จะได้แบ่งปันความรู้สำหรับผู้ที่สนใจทางด้านนี้ด้วยครับ
    ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งก็เพราะว่ากำลังทำงานวิจัยทางด้าน Computer graphic อยู่ด้วย Blog นี้เลยเป็นเหมือน Timeline ที่ค่อยเตือนตัวเองว่าทำถึงไหนแล้วนั้นเอง